กลยุทธ์คอนเทนต์แบบ TOFU, MOFU, BOFU สร้างยังไงให้ลูกค้าติดใจตั้งแต่แรกเห็น การสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงกลยุทธ์คอนเทนต์ที่แบ่งออกเป็นสามระดับ คือ TOFU (Top of Funnel), MOFU (Middle of Funnel) และ BOFU (Bottom of Funnel) ในบทความนี้เราจะมาสำรวจวิธีการสร้างคอนเทนต์ในแต่ละระดับเพื่อดึงดูดลูกค้าและทำให้พวกเขาติดใจตั้งแต่แรกเห็น 1. TOFU (Top of Funnel): การสร้างการรับรู้ ระดับ TOFU เป็นขั้นตอนแรกในการดึงดูดลูกค้าใหม่ เป้าหมายของคอนเทนต์ในระดับนี้คือการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคุณ คอนเทนต์ที่น่าสนใจในระดับ TOFU มักจะเป็นเนื้อหาที่ให้ข้อมูล เช่น บทความในบล็อก วิดีโอสั้น หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย วิธีการสร้างคอนเทนต์ TOFU ที่น่าสนใจ: ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์: สร้างบทความหรือวิดีโอที่ตอบโจทย์คำถามหรือปัญหาที่ผู้คนเผชิญ เช่น “10 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์ในปี 2024” ใช้รูปแบบที่หลากหลาย: ใช้กราฟิก อินโฟกราฟิก หรือวิดีโอเพื่อทำให้ข้อมูลน่าสนใจยิ่งขึ้น กระตุ้นให้เกิดการแชร์: สร้างเนื้อหาที่มีความน่าสนใจและกระตุ้นให้ผู้คนแชร์ เช่น แคมเปญท้าทายบนโซเชียลมีเดีย 2. MOFU (Middle of Funnel): การสร้างความสนใจ เมื่อผู้คนเริ่มรู้จักแบรนด์ของคุณแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างความสนใจให้กับพวกเขาในระดับ MOFU คอนเทนต์ในระดับนี้ควรมุ่งเน้น ที่การสร้างความสัมพันธ์และให้ข้อมูลที่มีค่า เช่น eBook, กรณีศึกษา หรือวิดีโอสอน วิธีการสร้างคอนเทนต์ MOFU ที่น่าสนใจ: เสนอ eBook หรือคู่มือ: ให้ eBook ฟรีที่มีข้อมูลลึกซึ้งเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหรือแนวโน้มที่สำคัญ เช่น “คู่มือการตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก” กรณีศึกษา: แบ่งปันกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จที่ลูกค้าของคุณได้รับจากการใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์ของคุณ สร้างการมีส่วนร่วม: จัดทำเว็บบินาร์หรือการสัมมนาออนไลน์ที่ให้ความรู้และตอบคำถามลูกค้า 3. BOFU (Bottom of Funnel): การสร้างการตัดสินใจ ในระดับ BOFU เป้าหมายคือการช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจในการซื้อ คอนเทนต์ในระดับนี้มักจะเป็นรีวิวสินค้า โปรโมชั่น หรือการสาธิตสินค้า วิธีการสร้างคอนเทนต์ BOFU ที่น่าสนใจ: รีวิวสินค้าและบริการ: สร้างคอนเทนต์รีวิวที่ชัดเจน โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติและประโยชน์ของสินค้า เช่น “ทำไมคุณควรเลือกคอร์สการตลาดออนไลน์ที่ Right Lane Academy” โปรโมชั่นพิเศษ: เสนอโปรโมชั่นหรือส่วนลดที่จำกัดเวลาเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ เช่น “สมัครวันนี้รับส่วนลด 20% สำหรับคอร์สการตลาดออนไลน์” การสาธิตผลิตภัณฑ์: จัดทำวิดีโอสาธิตการใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์และความสะดวกสบายในการใช้งาน สรุป การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพในระดับ TOFU, MOFU, และ BOFU จะช่วยให้คุณสามารถดึงดูดและรักษาความสนใจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์และให้คุณค่าแก่ผู้บริโภค คุณจะสามารถเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้อย่างยั่งยืน หากคุณต้องการสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์และทำให้ลูกค้าติดใจ ตั้งแต่แรกเห็น อย่าลืมให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อหาและการเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของคุณ! —————————- หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาและทีมทำการตลาดออนไลน์ เอเจนซี่โฆษณา สร้างยอดขายทะลุเป้าแบบก้าวกระโดด ติดต่อเราเพื่อให้ธุรกิจของคุณ ไปสู่เป้าหมายที่ใฝ่ฝัน ติดต่อรับคำปรึกษาฟรี !!! Tel : 094-616-3651 Line OA :…
วิธีแบ่งงบทำการตลาด ด้วยงบเพียง 10,000 บาท
ในการเริ่มทำการตลาดออนไลน์ ด้วยงบประมาณเพียง 10,000 บาท ไม่ใช่เรื่องยากหากมีการวางแผนที่ดีและมีประสิทธิภาพโดยจะแบ่งงบออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้
.
1. Production: การเตรียมคอนเทนต์
การทำคอนเทนต์ที่ดึงดูดใจเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำการตลาดออนไลน์ ในช่วงแรกของการโปรโมต ควรจัดสรรงบประมาณ 20-30% เพื่อการถ่ายภาพสินค้า การออกแบบกราฟิก
และการตัดต่อวิดีโอ ซึ่งจะช่วยให้คุณได้เนื้อหาที่มีคุณภาพ สามารถใช้ซ้ำได้ในระยะยาว
หากคุณมีความสามารถในการผลิตคอนเทนต์ด้วยตนเอง จะช่วยประหยัดเงินในส่วนนี้ได้มากขึ้น นอกจากนี้ เมื่อคอนเทนต์พื้นฐานพร้อมแล้วคุณอาจลดงบในส่วนนี้ลงได้ เพราะไม่จำเป็นต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่อยู่เสมอ
.
2. ค่าจ้าง Influencer
การใช้ Influencer มาช่วยโปรโมตสินค้าไม่เพียงแค่เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณได้ หากเลือกใช้อย่างเหมาะสม คอนเทนต์จาก Influencer
สามารถนำมาใช้ในสื่อของแบรนด์ได้อีก
ในช่วงเริ่มต้น ค่าจ้าง Influencer และการทำคอนเทนต์ควรรวมกันไม่เกิน 50% ของงบทั้งหมด เพื่อให้เหลืองบประมาณเพียงพอสำหรับการโฆษณา และโปรโมตให้กับแบรนด์ของคุณ
.
3. ค่าโฆษณา: หัวใจของการโปรโมต
งบส่วนที่เหลืออีก 50% ควรใช้สำหรับการโฆษณาออนไลน์ สินค้าที่ดีและคอนเทนต์ที่มีคุณภาพจะไม่มีประโยชน์ หากลูกค้าเป้าหมายไม่เห็นการใช้โฆษณาวิดีโอสั้น ๆ เพื่อดึงความสนใจในช่วงแรกใช้งบประมาณ 1,000 – 1,500 บาท จากนั้น นำงบที่เหลือไปใช้กับโฆษณาที่เน้นยอดขายโดยตรง เช่น โฆษณาข้อความ (Text Ads) หรือ Shop Ads และอย่าลืมใช้ Ads Retarget เพื่อติดตามกลุ่มลูกค้าที่เคยดูวิดีโอแล้วกลับมาซื้อสินค้า
.
สรุปการแบ่งงบการตลาด
- Production: 20-30% ของงบทั้งหมด
- Influencer & Production: รวมกันไม่เกิน 50%
- โฆษณา: 50% ของงบที่เหลือ
การวางแผนงบประมาณการตลาดให้ดีจะช่วยให้คุณใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
—————————-
หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาและทีมทำการตลาดออนไลน์ เอเจนซี่โฆษณา สร้างยอดขายทะลุเป้าแบบก้าวกระโดด ติดต่อเราเพื่อให้ธุรกิจของคุณไปสู่เป้าหมายที่ใฝ่ฝัน
ติดต่อรับคำปรึกษาฟรี !!!
Tel : 094-616-3651
Line OA : @unicronet
#Unicronet #PerformanceMarketing #digital agency #เอเจนซี่โฆษณา #Marketing agency #Content marketing